วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

สรุปของอาจารย์แม่ จากสมุด Lecture ผมพยายามตั้งเป็นคำถามให้ตอบกันครับ

สรุปของอาจารย์แม่ จากสมุด Lecture ผมพยายามตั้งเป็นคำถามให้ตอบกันครับ

Q. ทำไมเราต้องศึกษาทฤษฎีการบริหารต่าง ๆ?
A. การศึกษาทฤษฎี เพราะว่า ทฤษฎีต่างจะให้
     1 Concept จนกลายเป็นทฤษฎี เมื่อมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
     2 เป็นรากฐานของความจริง (Ground in reality)
     3 ต้องพยายามพัฒนาและประยุกต์ใช้ทฤษฎีเพื่อขับเคลื่อนองค์กรของเรา
     4 หลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอดีต จะทำให้เราทำสิ่งที่ถูกในอนาคต

Q. ถ้าคุณเป็น manager คุณจะแสดงบทบาทและใช้ทักษะอะไรในนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ?
A. เราต้องแยกบทบาท และทักษะ ออกจากกัน
บทบาทที่เราจะนำไปใช้แบ่งเป็นมิติดังนี้
1 Interpersonal Role บทบาทในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น(Liaison) เพราะเราเป็นผู้นำจึงต้องมี ภาพของผู้นำ(Figure Head) และต้องแสดงความเป็นผู้นำ(Leader)
2 Information Role เราต้องรู้จักเลือกข้อมุล(Monitor)ที่สำคํญหรือจำเป็นในการรับรู้และนำไปใช้ และจะทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูล(Disseminator)อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเป็นผู้ให้ข้อมูลที่ดี(Spokeperson)
3 Decision Role เราต้องมีความกล้าได้กล้าเสีย(Entreprenuer),ต้องปัดเป่าความเดือดร้อนในองค์กร(Disturbance handler),สามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ(Resource Allocation) และสามารถเจรจาต่อรองได้ดี(negotiation)
ทักษะที่จำเป็นที่เราจะใช้แบ่งเป็นมิติดังนี้
1 Technical Skills เราต้องมีทักษะในแต่ละสายงานเรียนรู้ให้ทั่วถึง
        2 Interpersonal Skills จะใช้ทักษะในการประสานบุคคลและกลุ่มงานในด้านการสื่อสาร, ความเข้าใจ และสร้างแรงจูงใจ ซึ่งความสำคัญสูงสุด
        3 Conceptual Skills จะใช้ทักษะด้านแนวความคิด เพื่อสามารถเข้าใจโดยสรป คิดเป็นภาพกว้าง(big picture) และสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานเพื่ออย่างกว้างเพื่อองค์กร
        4 Diagnostic Skills จะต้องใช้ทักษะการวินิจฉัย(diagnose)และวิเคราะห์(analyze) เพื่อมองหาสาเหตุของปัญหาและวางแนวทางแก้ไขได้ถูกทิศทาง
        5 Communication Skills จะต้องใช้ทักษะนี้ในการส่งและรับ ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        6 Decision Making Skills ต้องพยายามจัดกลุ่มปัญหาและแยกแยะสาเหตุ และมองหาโอกาส จากนั้นพยายามหาวิธีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดการสร้างโอกาส
        7 Time management Skills ต้องรู้จักการแบ่งเวลาและเรียงลำดับความสำคัญของงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิผลและสามารถมอบหมายงานได้อย่างเหมาะสม






        Q. ท่านคิดว่าการบริหารเป็นศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์หรือเป็นเรื่องของศิลปะ? และเพราะอะไร?
        A. การบริหารที่ดีต้องเป็นทั้งด้านวิทยาศาสตร์และมีศิลปะ เนื่องจาก เราต้องบริหารจัดการปัญหาและเรื่องราวต่าง ๆ บนพื้นฐานของเหตุผล ตรรษกะ วัตถุประสงค์ และ ต้องทำอย่างมีระบบ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคการตัดสิน การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันการบริหารก็จำเป็นต้องทำอย่างมีศิลปะ ซึ่งในบางครั้งเราต้องอาศัย พื้นฐานของการหยั่งรุ้(Intuition), ประสพการณ์(Experience),สัญชาติญาณ(Instinct) และ personal insight
เช่นเมื่อเราทำ market research แล้วนำมาปฏิบัติแต่ผลไม่เป็นไปตามนั้น เราต้องรีบแก้ไขปรับเปลี่ยนโดยอาศัย intuition and personal insight ประกอบกัน





1 ความคิดเห็น: